วันจันทร์ที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2556

กษัตริย์ลิจฉวีแตกสามัคคี



ฉันทลักษณ์
               วิชชุมมาลาฉันท์ ๘



วิชชุมมาลาฉันท์เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย แต่ในคัมภีร์วุตโตทัย ท่านเรียกว่า “วิชชุมมาลาคาถา” ท่านเป็นอนุฏฐุภาฉันท์ ฯ “วิชชุมมาลา” แปลว่า “คาถาที่เป็นครุล้วนเหมือนสายฟ้าแลบ” เป็นฉันท์ที่มี ๔ บาท ๆ ละ ๘ คำ รวมเป็น ๓๒ คำ มีสูตรว่า  “โม โม โค โค  วิชฺชุมฺมาลา” แปลว่า “คาถาที่มี ม คณะ ม คณะ ครุลอย ๒ คำ ชื่อว่าวิชฺชุมฺมาลา
        ในการบัญญัติฉันท์ไทยนั้น ท่านนำเอาสูตรดังกล่าวมาเป็นสูตร โดยกำหนดนำมาทั้ง ๔ บาท แล้วปรับปรุงให้เป็น ๔ บาท ๆ ละ ๒ วรรค เพราะบาทหนึ่งมี ๘ คำ จึงเรียกว่า ฉันท์ ๘แล้วเพิ่มสัมผัสเข้า คือ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๒ ของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๖, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๕ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๒ ของวรรคที่ ๖, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๖ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๗ และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๘ ส่งสัมผัสไปยังคำที่พร้อมจะรับในบทที่จะแต่งต่อไป

บทประพันธ์
                                               ข่าวเศิกเอิกอึง                           ทราบถึงบัดดล
                               ในหมู่ผู้คน                                                ชาวเวสาลี
                                แทบทุกถิ่นหมด                                       ชนบทบูรี
                                อกสั่นขวัญหนี                                          หวาดกลัวทั่วไป

ถอดความได้ว่า

            ข่าวศึกแพร่ไปจนรู้ถึงชาวเมืองเวสาลี  แทบทุกคนในเมืองต่างตกใจและหวาดกลัวกันไปทั่ว

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                  ตื่นตาหน้าเผือด                         หมดเลือดสั่นกาย
                                  หลบลี้หนีตาย                                            วุ่นหวั่นพรั่นใจ
                                  ซุกครอกซอกครัว                                     ซ่อนตัวแตกภัย
                                   เข้าดงพงไพร                                             ทิ้งย่านบ้านตน

ถอดความได้ว่า

หน้าตาตื่น หน้าซีดไม่มีสีเลือด ตัวสั่น พากันหนีตายวุ่นวาย พากันอพยพครอบครัวหนีภัย ทิ้งบ้านเรือนไปซุ่มซ่อนตัวเสียในป่า

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                     เหลือจักห้ามปราม                      ชาวคามล่าลาด
                                    พันหัวหน้าราษฎร์                                       ขุนด่านตำบล
                                   หารือแก่กัน                                                   คิดผันผ่อนปรน
                                    จักไม่ให้พล                                                 มาคธข้ามมา

ถอดความได้ว่า

ไม่สามารถห้ามปรามชาวบ้านได้  หัวหน้าราษฎรและนายด่านตำบลต่าง ๆ ปรึกษากันคิดจะยับยั้งไม่ให้กองทัพมคธข้ามมาได้

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                          จึ่งให้ตีกลอง                               ป่าวร้องทันที
                                          แจ้งข่าวไพรี                                               รุกเบียนบีฑา
                                         เพื่อหมู่ภูมี                                                  วัชชีอาณา
                                         ชุมนุมบัญชา                                              ป้องกันฉันใด

ถอดความได้ว่า

จึงตีกลองป่าวร้องแจ้งข่าวข้าศึกเข้ารุกราน  เพื่อให้เหล่ากษัตริย์แห่งวัชชีเสด็จมาประชุมหาหนทางป้องกันประการใด

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                         ราชาลิจฉวี                                ไป่มีสักองค์
                                        อันนึกจำนง                                                เพื่อจักเสด็จไป
                                         ต่างองค์ดำรัส                                            เรียกนัดทำไม
                                         ใครเป็นใหญ่ใคร                                        กล้าหาญเห็นดี

ถอดความได้ว่า

ไม่มีกษัตริย์ลิจฉวีแม้แต่พระองค์เดียวคิดจะเสด็จไป  แต่ละพระองค์ทรงดำรัสว่าจะเรียกประชุมด้วยเหตุใด  ผู้ใดเป็นใหญ่ ผู้ใดกล้าหาญ

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                           เชิญเทอญท่านต้อง                      ขัดข้องข้อไหน
                                           ปรึกษาปราศรัย                                            ตามเรื่องตามที
                                           ส่วนเราเล่าใช่                                               เป็นใหญ่ยังมี
                                           ใจอย่างผู้ภี                                                    รุกปราศอาจหาญ

ถอดความได้ว่า

เห็นดีประการใดก็เชิญเถิด จะปรึกษาหารืออย่างไรก็ตามแต่ใจ  ตัวของเรานั้นไม่ได้มีอำนาจยิ่งใหญ่  จิตใจก็ขี้ขลาด ไม่องอาจกล้าหาญ

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                 ต่างทรงสำแดง                             ความแขงอำนาจ
                                 สามัคคีขาด                                                  แก่งแย่งโดยมาน
                                 ภูมิศลิจฉวี                                                   วัชชีรัฐบาล
                                 บ่ชุมนุมสมาน                                              แม้แต่สักองค์

ถอดความได้ว่า

แต่ละพระองค์ต่างแสดงอาการเพิกเฉย  ปราศจากความสามัคคีปรองดองในจิตใจ  กษัตริย์ลิจฉวีแห่งวัชชีไม่เสด็จมาประชุมกันแม้แต่พระองค์เดียว

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

ฉันทลักษณ์
               อินทรวิเชียรฉันท์ ๑๑


อินทรวิเชียรฉันท์” เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย แต่ในคัมภีร์วุตโตทัย ท่านเรียกว่า “อินทรวิเชียรคาถา” เป็นติฏฐุภาฉันท์ ฯ “ติฏฐุภา” แปลว่า “ฉันท์ที่เบียดเบียนความไม่ไพเราะในฐานะ ๓ คือ ต้นบาท, กลางบาท และปลายบาท”  “อินทรวิเชียร” แปลว่า “คาถาที่เหมือนคทาเพชรของพระอินทร์ เพราะมีเสียงหนักในหนต้นตลอดหนปลาย” เป็นคาถา ๔ บาท ๆ ละ ๑๑ คำ มีสูตรว่า “อินฺทาทิกา ตา วชิรา ชคา โค” แปลความว่า “คาถาที่มี ต คณะ ต คณะ ช คณะ และครุลอย ๒ ชื่อว่า “อินทรวิเชียร
        ในการบัญญัติฉันท์ไทยนั้น ท่านนำสูตรดังกล่าวมาเป็นสูตร โดยนำมาเพียง ๒ บาท แล้วปรับปรุงให้เป็น ๔ วรรค เพราะมีบาทละ ๑๑ คำ จึงเรียกว่า “ฉันท์ ๑๑” แล้วเพิ่มสัมผัสเข้า คือ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓, และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ส่งสัมผัสไปยังคำที่พร้อมจะรับในบทที่จะแต่งต่อไป

บทประพันธ์
                                                     ปิ่นเขตมคธขัต                          ติยรัชธำรง
                                    ยั้งทัพประทับตรง                                      นคเรศวิสาลี
                                                     ภูธรธสังเกต                             พิเคราะห์เหตุณธานี
                                    แห่งราชวัชชี                                              ขณะเศิกประชิดแดน

ถอดความได้ว่า

จอมกษัตริย์แห่งแคว้นมคธหยุดทัพตรงหน้าเมืองเวสาลี  พระองค์ทรงสังเกตวิเคราะห์เหตุการณ์ทางเมืองวัชชีในขณะที่ข้าศึกมาประชิดเมือง 

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************
                                                    
                                                          เฉยดูบรู้สึก                              และมินึกจะเกรงแกลน
                                       ฤๅคิดจะตอบแทน                                      รณทัพระงับภัย
                                                        นิ่งเงียบสงบงำ                          บมิทำประการใด
                                      ปรากฏประหนึ่งใน                                     บุรว่างและร้างคน

ถอดความได้ว่า

ดูนิ่งเฉยไม่รู้สึกเกรงกลัว  หรือคิดจะทำสิ่งใดโต้ตอบระงับเหตุร้าย  กลับอยู่อย่างสงบเงียบไม่ทำการสิ่งใด  มองดูราวกับเป็นเมืองร้างปราศจากผู้คน

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                      แน่โดยมิพักสง                          สยคงกระทบกล
                                      ท่านวัสสการจน                                         ลุกระนี้ถนัดตา
                                                      ภินท์พัทธสามัค                         คิยพรรคพระราชา
                                     ชาวลิจฉวีวา                                                รจะพ้องอนัตถ์ภัย

ถอดความได้ว่า

แน่นอนไม่ต้องสงสัยเลยว่าคงจะถูกกลอุบายของวัสสการพราหมณ์จนเป็นเช่นนี้  ความสามัคคีผูกพันแห่งกษัตริย์ลิจฉวีถูกทำลายลงและจะประสบกับภัยพิบัติ

โวหารภาพพจน์ :      พรรณนาโวหาร
******************************

                                                        ลูกข่างประดาทา                        รกกาลขว้างไป
                                       หมุนเล่นสนุกไฉน                                      ดุจกันฉะนั้นหนอ
                                                        ครูวัสสการแส่                           กลแหย่ยุดีพอ
                                      ปั่นป่วนบเหลือหลอ                                   จะมิร้าวมิรานกัน

ถอดความได้ว่า

ลูกข่างที่เด็กขว้างเล่นได้สนุกฉันใด  วัสสการพราหมณ์ก็สามารถยุแหย่ให้เหล่ากษัตริย์ลิจฉวีแตกความสามัคคีได้ตามใจชอบและคิดที่จะสนุกฉันนั้น

โวหารภาพพจน์ :      อุปมาโวหาร , บรรยายโวหาร
******************************

                                 ครั้นทรงพระปรารภ                    ธุระจบธจึ่งบัญ
                   ชานายนิกายสรร                                       พทแกล้วทหารหาญ
                                  เร่งทำอุฬุมป์เว                           ฬุคะเนกะเกณฑ์การ
                   เพื่อข้ามนทีธาร                                         จรเข้านครบร

ถอดความได้ว่า

ครั้นทรงคิดได้ดังนั้นจึงมีพระราชบัญชาแก่เหล่าทหารหาญให้รีบสร้างแพไม้ไผ่เพื่อข้ามแม่น้ำจะเข้าเมืองของฝ่ายศัตรู  พวกทหารรับราชโองการแล้วก็ปฏิบัติภารกิจที่ได้รับ 

โวหารภาพพจน์ :       บรรยายโวหาร
******************************

                                            เขารับพระบัณฑูร                       อดิศูรบดีศร
                           ภาโรปกรณ์ตอน                                         ทิวรุ่งสฤษฎ์พลัน
                                            จอมนาถพระยาตรา                   พยุหาธิทัพขันธ์
                           โดยแพและพ่วงปัน                                    พลข้ามณคงคา

ถอดความได้ว่า

ในตอนเช้างานนั้นก็เสร็จทันที  จอมกษัตริย์เคลื่อนกองทัพอันมีกำลังพลมากมายลงในแพที่ติดกัน  นำกำลังข้ามแม่น้ำ

โวหารภาพพจน์ :       บรรยายโวหาร , พรรณนาโวหาร
******************************

                                          จนหมดพหลเนื่อง                       พิศเนืองขนัดคลา
                            ขึ้นฝั่งลุเวสา                                              ลิบุเรศสะดวกดาย

ถอดความได้ว่า

จนกองทัพหมดสิ้น  มองดูแน่นขนัด  ขึ้นฝั่งเมืองเวสาลีอย่างสะดวกสบาย

โวหารภาพพจน์ :       พรรณนาโวหาร
******************************

ฉันทลักษณ์
                จิตรปทาฉันท์ ๘


จิตรปทาฉันท์เป็นชื่อที่เรียกตามแบบไทย แต่ในคัมภีร์วุตโตทัย ท่านเรียกว่า จิตรปทาคาถา ท่านจัดเป็นอนุฏฐุภาฉันท์ อนุฏฐุภา แปลว่า ฉันทที่ห้ามความทรามกล่าวคือให้ความเพลิดเพลินดี จิตรปทาแปลว่าคาถาที่มีครุต่างจากกุมารลลิตา    เป็นฉันท์ที่มี ๔ บาท รวม ๓๒ คำ มีสูตรว่า  จิตฺรปทา ยทิ ภา คา”  แปลว่า คาถาที่มี ภ คณะ ภ คณะ และ ครุลอย ๒ คำ ชื่อว่า จิตรปทา
       ในการบัญญัติฉันท์ไทยนั้น ท่านนำเอาสูตรดังกล่าวมาเป็นสูตร โดยกำหนดนำมาทั้ง ๔ บาท แล้วปรับปรุงให้บทหนึ่งมี ๔ บาท ๆ ละ ๒ วรรค เพราะบาทหนึ่งมี ๘ คำ จึงเรียกว่า ฉันท์ ๘ แล้วเพิ่มสัมผัสเข้า คือ คำสุดท้ายของวรรคที่ ๑ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๒, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๒ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๓, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๔ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๖, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๕ ส่งสัมผัสไปยังคำที่ ๓ ของวรรคที่ ๖, คำสุดท้ายของวรรคที่ ๖ ส่งสัมผัสไปยังคำสุดท้ายของวรรคที่ ๗, และคำสุดท้ายของวรรคที่ ๘ ส่งสัมผัสไปยังคำที่พร้อมจะรับในบทที่จะแต่งต่อไป  

บทประพันธ์
                                                      นาครธา                                      นิวิสาลี
                                            เห็นริปุมี                                               พลมากมาย
                                            ข้ามติรชล                                             ก็ลุพ้นหมาย
                                           มุ่งจะทลาย                                             พระนครตน

ถอดความได้ว่า

                ฝ่ายเมืองเวสาลีมองเห็นข้าศึกจำนวนมากข้ามแม่น้ำมาเพื่อจะทำลายล้างบ้านเมืองของตน 

โวหารภาพพจน์ :       พรรณนาโวหาร
******************************

                                                   ต่างก็ตระหนก                                  มนอกเต้น
                                      ตื่นบมิเว้น                                                      ตะละผู้คน
                                      ทั่วบุรคา                                                         มจลาจล
                                      เสียงอลวน                                                     อลเวงไป

ถอดความได้ว่า

ต่างก็ตระหนกตกใจกันถ้วนหน้า  ในเมืองเกิดจลาจลวุ่นวายไปทั่วเมือง 

โวหารภาพพจน์ :       พรรณนาโวหาร
******************************

                                                 สรรพสกล                                      มุขมนตรี
                                  ตรอมมนภี                                                     รุกเภทภัย
                                  บางคณะอา                                                    ทรปราศรัย
                                  ยังมิกระไร                                                     ขณะนี้หนอ

ถอดความได้ว่า

ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ต่างหวาดกลัวภัย บางพวกก็พูดว่าขณะนี้ยังไม่เป็นไรหรอก

โวหารภาพพจน์ :       บรรยายโวหาร
******************************

                                                    ควรบริบาล                                    พระทวารมั่น
                                  ต้านปะทะกัน                                                  อริก่อนพอ
                                  ขัตติยรา                                                           ชสภารอ
                                 ดำริจะขอ                                                          วรโองการ

ถอดความได้ว่า

                ควรจะป้องกันประตูเมืองเอาไว้ให้มั่นคง  ต้านทานข้าศึกเอาไว้ก่อน  รอให้ที่ประชุมเหล่ากษัตริย์มีความเห็นว่าจะทรงทำประการใด

โวหารภาพพจน์ :       บรรยายโวหาร
******************************

                                               ทรงตริไฉน                                      ก็จะได้ทำ
                                  โดยนยดำ                                                      รัสภูบาล
                                  เสวกผอง                                                       ก็เคาะกลองขาน
                                  อาณัติปาน                                                     ดุจกลองพัง

ถอดความได้ว่า

ก็จะได้ดำเนินการตามพระบัญชาของพระองค์เ หล่าข้าราชการทั้งหลายก็ตีกลองสัญญาณขึ้นราวกับกลองจะพัง

โวหารภาพพจน์ :       อุปมาโวหาร
******************************

                                                    ศัพทอุโฆษ                                      ประลุโสตท้าว
                                      ลิจฉวีด้าว                                                      ขณะทรงฟัง
                                      ต่างธก็เฉย                                                     และละเลยดัง
                                    ไท้มิอินัง                                                        ธุระกับใคร

ถอดความได้ว่า

เสียงดังกึกก้องไปถึงพระกรรณกษัตริย์ลิจฉวีต่างองค์ทรงเพิกเฉยราวกับไม่เอาใจใส่ในเรื่องราวของผู้ใด

โวหารภาพพจน์ :       พรรณนาโวหาร
******************************
                   
                                         ต่างก็บคลา                                      ณสภาคา
                          แม้พระทวาร                                                  บุรทั่วไป
                          รอบทิศด้าน                                                   และทวารใด
                          เห็นนรไหน                                                   สิจะปิดมี

ถอดความได้ว่า

ต่างองค์ไม่เสด็จไปที่ประชุม  แม้แต่ประตูเมืองรอบทิศทุกบานก็ไม่มีผู้ใดปิด

โวหารภาพพจน์ :       พรรณนาโวหาร
******************************

1 ความคิดเห็น:

  1. You should see how my associate Wesley Virgin's story starts in this shocking and controversial VIDEO.

    Wesley was in the military-and shortly after leaving-he revealed hidden, "SELF MIND CONTROL" secrets that the government and others used to get anything they want.

    THESE are the same SECRETS many celebrities (notably those who "became famous out of nothing") and top business people used to become rich and famous.

    You've heard that you only use 10% of your brain.

    That's because most of your brainpower is UNCONSCIOUS.

    Maybe this conversation has even taken place INSIDE your very own mind... as it did in my good friend Wesley Virgin's mind about 7 years ago, while riding an unregistered, beat-up trash bucket of a car with a suspended license and on his bank card.

    "I'm very fed up with going through life paycheck to paycheck! When will I finally succeed?"

    You took part in those conversations, isn't it right?

    Your very own success story is waiting to start. All you have to do is in YOURSELF.

    Learn How To Become A MILLIONAIRE Fast

    ตอบลบ